ดอกซากุระ

หัวข้อ

ดอกซากุระ

Cherry blossom (ดอกซากุระ) เป็นดอกไม้ของต้นไม้สกุลเชอรี่ ซึ่งมีอยู่หลากหลายชนิด สายพันธุ์ซากุระพบได้ทั่วไปโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ซีกโลกเหนือที่สภาพอากาศอบอุ่น รวมถึงญี่ปุ่น, จีน, เกาหลี, เนปาล, อินเดีย, ปากีสถาน, อิหร่าน, อัฟกานิสถาน และอีกหลายๆ พื้นที่ของยุโรปตอนเหนือ ประเทศญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของซากุระที่มีสายพันธุ์ที่หลากหลายและบรรยากาศการเฉลิมฉลองทั่วประเทศในช่วงเวลาที่ดอกซากุระบาน ตามสวนสาธารณะหรือท้องถนนในแต่ละท้องที่ของญี่ปุ่น จะมีผู้คนมาปิกนิกหรือจัดงานปาร์ตี้ชมดอกไม้ เพื่อสัมผัสกับความงามของดอกซากุระ ต้อนรับการมาเยือนของอากาศที่อบอุ่น ในภาษาญี่ปุ่นนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อเรียก SAKURA โดยหากจะกล่าวว่าทั่วทั้งประเทศต่างก็มุ่งความสนใจไปที่ซากุระก็ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงเลย

ดอกซากุระ สายพันธุ์ต่างๆ

ดอกซากุระ มันบุปผาหลายครั้ง แต่ในโตเกียวดอกซากุระส่วนใหญ่บานและสวยที่สุดตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ในช่วงเวลานี้บรรยากาศของเมืองเปลี่ยนไป ดอกซากุระที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เช่นเดียวกับฤดูใบไม้ผลิมันเหมือนกับการแต่งตั้งชีวิตใหม่และการเริ่มต้นใหม่ของใหม่ดอกซากุระถือเป็นการสนทนาประจำวัน ฉันเห็นผู้คนหยุดข้างถนนและถ่ายรูปดอกซากุระจากมุมต่าง ๆ ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับร้านค้าผลิตภัณฑ์ดอกไม้สีชมพูเสื้อผ้านอกจากนี้ยังตกแต่งด้วยของว่างและดอกซากุระ นอกจากนี้ยังบ้าคลั่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มของซากุระสตาร์บัคส์!

เทศกาลดอกเชอร์รี่จัดขึ้นในสวนสาธารณะและปราสาทหลายแห่งในแต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่น และความงามและประเทศต่าง ๆ ได้กล่าว มันเป็นภาพพื้นหลังจนกระทั่งรอยสักมีจินตนาการและหัวใจอยู่แล้วเพราะมันเป็นที่นิยมทั้งในภาพวาดและศิลปะดั้งเดิมเพราะดอกไม้มีความละเอียดอ่อนและทนไม่ได้

สามารถชมดอกซากุระได้ที่ไหน?

ซากุระสายพันธุ์ที่พบเห็นได้ทั่วไปที่สุดในประเทศญี่ปุ่นคือ “โซเมอิโยชิโนะ” ซึ่งเป็นการผสมของสองสายพันธุ์ เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นดอกที่มีสีขาวอมชมพูอ่อนๆ มักจะปลูกไว้ตามริมตลิ่งหรือคูน้ำของปราสาท ปรากฎเป็นดอกไม้สะท้อนบนผืนน้ำและเกิดเป็นอุโมงค์เฉดสีอ่อนๆ ขึ้นมา นอกจากนี้ก็ยังสามารถพบเห็นได้บ่อยๆ ตามสวนสาธารณะหรือโรงเรียนต่างๆ ด้วย

คาวาซุซากุระซึ่งมักจะพบเห็นได้ที่เขตพื้นที่คาวาซุทางตอนใต้ของคาบสมุทรอิซุซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟ ก็เป็นสายพันธุ์ที่สวยงาม ดอกซากุระชนิดนี้จะมีสีชมพูเข้มกว่าโซเมอิโยชิโนะ และจะบานเร็วกว่าโซเมอิโยชิโนะประมาณ 1 เดือน โดยจะเริ่มบานตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม เทศกาลคาวาซุซากุระเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีผู้คนมาเที่ยวชมทุกปีราว 1 ล้านคน

หากไม่สามารถมาเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิได้ ก็สามารถชมดอกไม้ (ซากุระ) ได้เช่นกัน “ชิกิซากุระ” (มีความหมายตามตัวอักษร คือ ซากุระสี่ฤดู) จะบานปีละ 2 ครั้ง โดย ณ สถานที่ขึ้นชื่อในจังหวัดไอจิ สามารถชมภาพตัดกันของดอกซากุระที่มีสีชมพูระเรื่อกับใบเมเปิลสีสดได้พร้อมๆ กันในฤดูใบไม้ผลิ สำหรับคนที่อยากจะปลูกซากุระด้วยตนเองนั้น ตาม Home depot ซึ่งเป็นห้างโฮมเซ็นเตอร์ของอเมริกานั้น ก็เริ่มมีการจำหน่ายต้นพร้อมปลูก ทำให้การซื้อต้นซากุระมาปลูกเองกลายมาเป็นที่นิยม นอกจากนี้ ที่ญี่ปุ่นยังสามารถพบเห็นต้นบอนไซซากุระขนาดเล็กซึ่งเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ 2 วัฒนธรรมมารวมไว้เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างงดงาม

สัญลักษณ์กับความหมายของซากุระ

ศาสตร์ที่ว่าด้วยความงามของซากุระนั้น ก็เป็นหนึ่งในภาพลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาวัฒนธรรมญี่ปุ่นทั้งหมด สามารถพบเห็นการออกแบบโดยใช้ดอกซากุระได้ทั่วทุกหนทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ที่เสมือนความฝันของภาพพิมพ์แม่พิมพ์ไม้ของภาพอูกิโยะ, การออกแบบอันประณีตที่ถูกวาดลงบนฉากกั้นห้องแบบโบราณ, ภาพลวดลายบนของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กล่องข้าวเบนโตะ ฯลฯ และแน่นอนว่ายังปรากฏในงานศิลปะสมัยใหม่, การ์ตูนมังงะ หรืออนิเมะบ่อยครั้งอีกด้วย

คำกล่าวชื่นชมในความงามที่ดอกไม้อันละเอียดอ่อนนี้มอบให้กับวิวทิวทัศน์ หรือคำคมที่เป็นสัญลักษณ์แทนความคิดของผู้คนที่ชื่นชมและยกย่องดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิแต่ละปีนั้นมีขึ้นมาเรื่อยๆ จนกล่าวถึงได้ไม่หมด ลองมาดูตัวอย่างคำกล่าวของอิคคิว ผู้ซึ่งเป็นทั้งพระนิกายเซนและนักกวีของญี่ปุ่น ( ปี 1394 – 1481 ) ที่ว่า “แม้ว่าจะลองตัดต้นซากุระดู ก็ไม่อาจเห็นดอกซากุระภายใน แต่เมื่อลมแห่งฤดูใบไม้ผลิพัดมา ดอกซากุระกลับบานสะพรั่งนับไม่ถ้วน”

หนึ่งในเหตุผลของความนิยมในซากุระก็คือลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์นั้น และด้วยความที่ดอกซากุระบานสะพรั่งพร้อมกันราวกับกิ่งก้านของต้นทั้งต้นถูกห่อหุ้มอยู่ท่ามกลางหมอก และจู่ๆ ก็พลันหายไปราวกับเมฆอีกนั้น จึงกล่าวกันว่ามีลักษณะคล้ายกับเมฆ ด้วยเหตุเช่นนี้ ดอกซากุระจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความไม่แน่นอนของชีวิต เป็นสิ่งที่ทำให้ตระหนักถึง “ความเศร้าสร้อยของสรรพสิ่ง” – ทั้งความงามที่อยู่ภายในช่วงชีวิตและความตายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ซึ่งเป็นแนวคิดทางพุทธศาสนาที่ฝังรากมาแต่โบราณในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น แปลคร่าวๆ ก็คือ เป็นการสะท้อนความคิดที่ว่า “ความโศกเศร้าของสรรพสิ่ง”

ดอกซากุระจะบานในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องที่ โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มบานตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งนั่นก็เป็นช่วงเวลาของการจบภาคเรียนพอดี ตรงกับช่วงเวลาที่นักศึกษาเรียนจบและจะเริ่มเข้าสู่สังคมคนทำงาน เป็นช่วงเวลาที่บทบาทหนึ่งของชีวิตจบลง และเริ่มเข้าสู่บทใหม่ต่อไป คำว่า “Natsukashi” ในภาษาญี่ปุ่นนั้น เป็นคำที่สะท้อนการรำลึกถึงความหลังอย่างหนึ่งที่อบอวลไปด้วยทั้งความยินดีและความเศร้า กล่าวได้ว่า ดอกซากุระนั้นเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกหวนรำลึกที่ว่านี้ออกมาอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก นับจากช่วงเวลาที่ดอกซากุระบาน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง